ไดสตาร์ทรถยนต์ จำหน่าย เปลี่ยน ซ่อมไดสตาร์ท บริการนอกสถานที่

ค่าบริการ เปลี่ยน-ติดตั้ง หน้าร้าน 500 บาท
ค่าบริการ เปลี่ยน-ติดตั้ง นอกสถานที่ 1,000 บาท

ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ คิดราคาส่วนลดจากการนำ ไดชาร์จเก่า หรือ ไดสตาร์ทเก่า มาแลกไดใหม่เรียบร้อยแล้ว

หลักการทำงานของไดสตาร์ท

ไดสตาร์ทมีทำหน้าที่จุดเครื่องยนต์ให้ติด การทำงานของอุปกรณ์ชิ้นนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเราบิดลูกกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทของรถยนต์ กระแสไฟฟ้าจะผ่านไปยังระบบคอยล์จุดระเบิดกับหัวเทียน จากนั้นตัวโซลินอยด์จะทำการดันก้านปูให้เฟืองไปขับเฟืองไฟวิน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ทั้งสิ้นและการทำงานมีความเกี่ยวข้องกันอย่างแนบแน่น

แต่เนื่องจากไดสตาร์ทนั้นทำงานร่วมกันกับไดชาร์จ และ แบตเตอรี่ ในหลายครั้งจึงไม่ง่ายนักที่จะแยกแยะว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากชิ้นส่วนไหนกันแน่ จึงจำเป็นต้องค่อย ๆ ไล่หาสาเหตุไปทีละจุด

หลักการบำรุงรักษา และ การใช้งานให้ไดสตาร์ทอยู่ได้นาน

แม้ไดสตาร์ทจะมีโอกาสชำรุดน้อยกว่าอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ แต่ก็มีโอกาสเสียหายได้เช่นกัน การรู้จักวิธีใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานได้ ประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยหลักการง่าย ๆ ดังนี้

1. คราบ ฝุ่น ละอองน้ำมัน และสิ่งสกปรกเป็นศัตรูกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ทำงานได้ไม่เต็มที่หรือเสียหาย หากไม่ทำความสะอาดจะทำให้แปรงถ่านภายในสกปรก ส่งผลให้อุปกรณ์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพหรือถึงขั้นมอเตอร์ไม่ทำงาน
2. เมื่อสตาร์ทรถทุกครั้ง พอเครื่องยนต์ติดแล้วให้รีบปล่อยมือทันที อย่าบิดแช่ไว้นานเพราะจะทำให้อุปกรณ์ร้อนจนไหม้ได้
3. แปรงถ่านอาจมีปัญหาได้เมื่ออุปกรณ์สัมผัสกับน้ำหรือของเหลวโดยตรง ซึ่งอาจมีอาการไม่หมุน เกิดเป็นสนิม จึงควรดูแลให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอหากเป็นไปได้

การแก้ไขปัญหาเมื่อไดสตาร์ทเกิดมีปัญหากะทันหัน

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากคุณรู้ว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรก็คงจะพอช่วยให้สถานการณ์บรรเทาไปได้บ้าง เหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณทำได้หากพบว่าอุปกรณ์มีปัญหาเกิดขึ้นจนรถสตาร์ทไม่ติด

1. ลองทำการสตาร์ทแบบเร็ว คือเมื่อเสียบกุญแจแล้วบิดไปที่จุด On แบบทันที อาจจะทำให้เครื่องยนต์ติด
2. ลองใช้ไม้หรือเหล็กแท่งยาว ๆ เคาะไปที่ไดสตาร์ทเบา ๆ อาจช่วยกะเทาะสิ่งสกปรกและสนิมได้บ้าง ทำให้กลับมาอยู่ในสภาพที่พอใช้งานต่อได้
3. การแก้ปัญหาแบบดั้งเดิมก็อาจใช้ได้ผลก็คือการเข็นรถแล้วสตาร์ทเครื่องจนทำให้รถวิ่งต่อไปได้ ใช้ได้กับรถเกียร์แมนนวล
4. ควรตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ด้วยว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมาได้อย่างไม่เต็มที่ สำรวจที่ขั้วว่ามีขี้เกลือเกาะหรือเปล่า ขั้วยังยึดแน่นดีหรือไม่
5. นำรถเข้าอยู่เพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นใหม่ เพื่อแก้ปัญหาแบบระยะยาวไม่ให้เกิดซ้ำอีก

จะเห็นได้ว่าความสำคัญของไดสตาร์ทนั้นมีไม่แพ้อุปกรณ์อื่น ๆ เลย คนใช้รถและคลุกคลีกับรถยนต์จึงควรศึกษาหลักการทำงานของอุปกรณ์ วิธีการบำรุงรักษา รวมไปถึงวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อที่จะได้แก้ไขสถานการณ์ได้ในยามที่อุปกรณ์ทำงานผิดปกติ อย่าลืมว่าความไม่รู้นั้นน่ากลัวที่สุด คงจะดีกว่าแน่หากเราเตรียมตัวให้พร้อมก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น